รีวิวหนัง “Badland Hunters นักล่ากลางนรก” ฟุ้งเฟ้อขยายจักรวาลโลกหายนะแห่งเกาหลี

เกาหลีเปิดปีนี้ด้วยหนังแอคชันโลกหลังหายนะฟอร์มดี ที่เป็นเสมือนหนังภาคต่อและจักรวาลเดียวกันกับหนังหายนะเรื่องดังเมื่อปี 2023 อย่าง Concrete Utopia วิมานกลางนรก และนี่คือ “Badland Hunters นักล่ากลางนรก” หนังบู๊สูตรสำเร็จที่เกาหลีนิยมสร้างในช่วงนี้ ที่มากับจุดขายเดิมที่หมัดหนัก ๆ ของซุปตาร์ “มาดงซอก” เรารู้..ว่าคุณน่าจะคาดเดากันได้

Badland Hunters นักล่ากลางนรก เป็นเรื่องราวอีกมุมภายหลังจากเกิดเหตุหายนะแผ่นดินไหวรุนแรง ที่ทำให้กรุงโซลกลายเป็นดินแดนรกร้างและล่มสลาย พวกบรรดาคนรอดชีวิตต้องพากันดิ้นรนอย่างไร้ความหวัง เมื่อสังคมไร้ขื่อไร้แป กลุ่มย่อยต่าง ๆ พากันช่วงชิงอำนาจการปกครอง นัมซาน ที่อยู่ท่ามกลางสังคมเน่าเฟะ เขาเป็นนักล่าดินแดนร้าง โดยมี ชเวจีวาน เป็นลิ่วล้อข้างกายเขา ที่จะมาปลดแอกบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

เอาจริง ๆ Concrete Utopia วิมานกลางนรก ก็เป็นหนังหายนะปลุกไฟการปกครอง ที่เดินหมากเกมไปตามสูตรของวงการหนังเกาหลี มีดีที่ขายซีจีอลังการกับแอคติ้งระดับเทพของทีมนักแสดงคุณภาพ แต่ผลลัพธ์ของหนังเรื่องนั้น ทางเราก็ยังรู้สึกว่าเป็นหนังเกาหลีธรรมดา ๆ ทั่วไปอยู่ แล้วเมื่อมาสานต่ออีกในภาคนี้ ที่เป็นการต่อเติมเรื่องราวออกไปจากเดิม แต่หนังก็ยังให้ผลลัพธ์ในลักษณะเดิม ที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่มีอะไรที่เกินคาดเดา

Badland Hunters เป็นผลงานของผู้กำกับหนุ่มไฟแรง “ฮอมยองแฮง” ที่ถือว่าเป็นผลงานเดบิวต์ที่งดงามของเขา และในปีนี้เขาก็จะมี “The Roundup: Punishment” หนังบู๊ภาคต่อทรงพลังของเกาหลี ที่เป็นการร่วมงานกับ มาดงซอก แพ็กคู่ทั้งสองเรื่องเลย ต้องถือว่าโชคช่วยที่งานสร้างของผู้กำกับฮอ มีเทมเพลตเดิมจาก Concrete Utopia ไว้ให้เจริญรอยตามอยู่แล้ว ทำให้งานสร้างสรรค์ต่าง ๆ สามารถหยิบยืมเอามาใช้กันได้เลย

แต่สำหรับเรื่องนี้ถือว่ามีความเป็นหนังแอคชันเพิ่มขึ้น เพื่อทำการเซอร์วิสแฟน ๆ ของมาดงซอก ที่ใครที่เข้ามาดูก็อยากจะเป็นจังหวะเหวี่ยงหมัดโหด ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา งานออกแบบคิวบู๊ก็ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐาน ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ก็ยังมันส์สะใจได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ทางด้านบทหนังนั้นก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเซฟโซน เหมือนยำรวมที่เอาหนังเกาหลีเรื่องดัง ๆ ในยุคหลังมาผสมเป็นยำจานใหม่ มีทั้งซอมบี้ ทั้งไซไฟ ทั้งระทึกใจ

ทางด้าน มาดงซอก ก็ยังคงรับหน้าที่เป็น มาดงซอก บทของเขาก็ยังคงวนอยู่ในอ่างเดิม ทั้งท่วงท่าและลีลาทางการแสดงยังเท่เหมือนเก่า ถึงมันจะเป็นอะไรเดิม ๆ แต่ก็จัดได้ว่าเป็นความบันเทิงที่ผู้ชมใฝ่หาและต้องการที่อยากจะดูและอยากเห็นโดยเฉพาะ เพราะสปอตไลต์มาอยู่ที่ป๋า ทำให้นักแสดงคนอื่น ๆ อย่าง “อีฮีจุน”, “อีจุนยอง” หรือ “โรจองอึย” กลายเป็นเพื่อตัวเสริมให้เติมเต็ม บทบาทพวกเขาแทบจะไม่มีอะไรเลย

ถ้าหากว่าคุณยังไม่เคยดู Concrete Utopia มาก่อน แล้วมาดู Badland Hunters เลย ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะหนังทั้งสองเรื่องมีความเชื่อมโยงกันแค่เพียงฉากหลักของเหตุการณ์หายนะเท่านั้น แต่หากว่าดูเรื่องนี้แล้วถึงย้อนกลับไปดูเรื่องก่อน ก็น่าจะช่วยเติมเต็มเรื่องราวของจักรวาลใบนี้ได้ดียิ่งขึ้นหน่อย แต่คงจะต้องบอกหนังทั้งสองเรื่องค่อนข้างต่างกันคนละแนวเลย

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว Badland Hunters ก็เป็นเพียงหนังที่มาช่วยขยายจักรวาลโลกหายนะที่ยังไม่ถึงมีเสน่ห์มากมายขนาดนั้น จะบอกว่าเป็นหนังที่มีก็ได้ หรือไม่มีก็ได้ เพราะสุดท้ายหนังก็กลายเป็นเพียงส่วนต่อขยายที่ไม่ได้น่าจดจำสักเท่าไหร่ เป็นหนังที่เชื่อว่าจะเปิดดูและผ่านเลยไป ไม่ต่างกับหนังภาคที่แล้วก็เคยมอบความรู้สึกแบบนั้น มันเป็นหนังบู๊จังหวะเดิม ๆ ของนักแสดงเจ้าเสน่ห์คนเดิม ที่ยังเป็นส่วนผสมหลักที่ยืนหนึ่งความสนุก แต่เนื้อหากลับจำอะไรไม่เลย

รับชมตัวอย่างได้ที่: