รีวิวหนัง "Wonka วองก้า" ต้นตำหรับวงการช็อกโกแลต แบบฉบับเป็นเบาหวานก็ยอม

Admin Feb 08 2024

มาถึงช่วงปลายปีนี้แบบนี้ ก็นึกว่าจะไม่ได้เห็นได้ดูหนังแนวแฟนตาซี อันเป็นสูตรสำเร็จในช่วงเทศกาล โดยครั้งเป็นการกลับมาของตัวพ่อวงการช็อกโกแลตที่ใคร ๆ ก็รู้จักกันดี แต่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้ที่มาที่ไปและเรื่องราวในอดีตของเขาสักเท่าไหร่ และ "Wonka วองก้า" ก็ได้มารับหน้าที่บรรเลงการผจญภัยอันน่าตื่นตาตื่นใจครั้งนี้ให้กับคนดู ที่พอเลยว่า...เป็นหนังที่ทำให้อยากของหวานและรู้สึกใจฟูไปพร้อม ๆ กัน




Wonka เป็นเรื่องราวสุดแสนมหัศจรรย์ของนักมายากล นักประดิษฐ์ และนักลงทุน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก กว่าที่เขาจะก้าวเข้ามาเป็น วิลลี วองก้า เจ้าของโรงงานช็อกโกแลตอันสุดแสนวิเศษราวกับต้องมนตร์ ที่บัดนี้การผจญภัยในจุดเริ่มต้นของเขาจะเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก เพราะอะไรคนถึงรักเขามากเพียงนี้..จะเขาจะเบียว ๆ ไปสักหน่อยก็ตามเถอะ

โดยในครั้งนี้เป็นการรังสรรค์ของทีมผู้สร้างฝั่งอังกฤษเกือบจะทั้งหมด ภายใต้การดูแลของ "พอล คิง" ผู้ที่เนรมิตให้เจ้าหมี "Paddington" ที่ชีวิตชีวาและน่าหลงใหลจนกลายเป็นไตรภาค และหนังทำนองนี้แหละที่กลายเป็นหนังแนวถนัดของเขาไม่น้อยเลย ถือว่าเป็นงานสร้างที่ได้ผู้สร้างที่เหมาะเจาะกับชิ้นงานเป็นอย่างดี ทำให้องค์ประกอบอะไรต่าง ๆ มันช่างอัศจรรย์เสียจริง




แม้ว่าตัวละคร วองก้า จะไม่ใช่อะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่ เพราะนี่คือตัวละครในตำนานจากฝีมือการเสกขึ้นมาของนักเขียนระดับตำนาน "โรอาลด์ ดาห์ล" ที่โลกรู้จักกันดี เราอาจจะคุ้น ๆ กับเวอร์ชันเมื่อเกือบ 20 ปีก่อนที่ จอห์นนี เดปป์ เล่นเอาไว้ หรือฉบับคลาสสิกในปี 1971 ก็ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำ แต่มาในฉบับนี้ถือว่าเป็นแต่งเติมและต่อเติมจินตนาการขึ้นมาอีกทาง ด้วยการเล่าถึงจุดกำเนิดและตัวตนของวองก้าในวันที่มีแต่ตัว

พอล คิง ยังมารับหน้าที่วางโครงเรื่องและร่วมเขียนบทหนังกับ "ไมซอม ฟาร์นาบี" ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วจากใน Paddington 2 ที่นับว่าเป็นรังสรรค์บทหนังที่ค่อนข้างย่อยและดูง่าย ซ้ำยังเต็มไปด้วยจังหวะลีลาที่ชวนสนุกไปได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างเริงใจยิ่งหนัก ถึงแม้ว่าบทหนังจะไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่ใด ๆ พล็อตค่อนข้างเชยด้วยซ้ำ แต่เพราะด้วยการเล่าเรื่องที่ตรึงใจคนดูได้ดีตลอดทั้งเรื่อง ทำให้องค์ประกอบนี้มันเหมาะเจาะกับภาพรวมไปไม่น้อย




ทางด้านงานสร้างก็ถือว่าดีเลยทีเดียว ฉาก สี แสง และงานดีไซน์โปรดักชันต่าง ๆ ทำออกมาได้จัดจ้านและลงตัวมาก ใส่ความเป็นแฟนตาซีที่กำลังพอดี ไม่ขาดและไม่ล้นจนเกิดไป เป็นหนึ่งในตัวที่ขับเคลื่อนหนังเอาไว้ได้ดีมาก ๆ อีกทั้งบางฉากแทบลืมไปเลยว่าเป็นเทคนิคพิเศษที่ใส่เข้ามาเสริมอรรถรส เป็นส่วนประกอบที่ทำเอาคนดูดูได้เพลินจริง ๆ

อีกหนังไฮไลต์ที่แอบเซอร์ไพรส์เบา ๆ ก็คงจะเป็นบทเพลงที่ใส่เอาไว้ในหนัง กลายเป็นเหมือนตัวขโมยซีนไม่น้อย เพราะทุกบทเพลงที่ร้องเล่นเต้นกับจังหวะนั้น ไพเราะทั้งหมดทุกเพลงจริง ๆ เต็มไปด้วยความหมายที่เข้าถึงเส้นเรื่องเป็นอย่างดี ต้องยอมรับว่าในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา หนังมิวสิคัลค่อนข้างเจอศึกหนังไม่เบา แต่เหมือนว่า Wonka จะมาช่วยล้างอาถรรพ์ในประเด็นให้ได้เสียแล้ว



และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือทีมนักแสดง ที่เรียกได้ว่าชุดใหญ่ไฟกะพริบเลยทีเดียว "ทีโมธี ชาลาเมต์" ก็ยังพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า เขาสามารถยืดหยุ่นไปกับทุกบทบาทที่รับได้จริง ๆ และการสวมวิญญาณเป็นวองก้าในครั้งนี้ของเขา เต็มไปด้วยจังหวะที่มีเสน่ห์เหลือล้น กับการแสดงและตีความอันเป็นธรรมชาติของตัวเขาเอง กลั่นกรองออกมาเป็นวองก้าในรูปแบบที่คนดูจะต้องโดนเขาตกกันถ้วนหน้า

นี่คือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าประทับใจของนักแสดงหนุ่มวัย 27 ปีผู้นี้ ที่เห็นได้ชัดแล้วว่าอายุไม่เกี่ยวเลย มันคือพรสรรค์และประสบการณ์ที่เขานำมาถ่ายทอดออกมาเป็นคาแรกเตอร์ที่มีความหมายอย่างเต็มที่ในครั้งนี้ อีกทั้งยังมีแก๊งสาย "เคลาห์ เลน" ที่เป็นนักแสดงเด็กที่ฝีมือไม่เด็กจริง ๆ ร่วมด้วย "คิม คาร์เตอร์" และ "นาตาชา รอธเวลล์"



แต่หนังก็มาพร้อมกับตัวละครแย่งซีนระดับมืออาชีพชุดใหญ่ ที่คนดูจะต้องประทับใจแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น "โอลิเวีย โคลแมน" กับสำเนียงบริติชที่ชวนหมั่นไส้ แก๊งขัดขาที่นำโดย "คีแกน-ไมเคิล คีย์" และ "เพเตอร์สัน โจเซฟ" ก็ชวนยียวนกวนประสาท และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "โรแวน แอตคินสัน" กับ "ฮิวจ์ แกรนท์" ที่แม้ว่าจะมีแอร์ไทม์ไม่เท่าไหร่ แต่ออกมาที่ก็ตึงทุกฉาก

เอาเป็นว่าในภาพรวมแล้วนั้น ถือว่า Wonka เป็นหนังแฟนตาซีที่ชวนในรู้สึกอิ่มเอมและประทับใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่หนังที่มีพล็อตและองค์ประกอบที่แปลกใหม่อะไรเท่าไหร่เลย แต่คนดูสามารถเอ็นจอยไปกับมันได้ดี และเพลินไปด้วยตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงของหนัง แค่นั่งดูทีมนักแสดงตัวเป้ง ๆ มาฟาดฟันเล่นใหญ่ใส่กันก็คือกำไรแล้ว ไหนจะบทเพลงและงานสร้างที่น่าตื่นตา ที่ทำให้ทั้งยิ้มและน้ำตาซึมไปได้ บอกเลยว่าดูเรื่องนี้จบ..ยอมให้ค่าน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสัก 1-2 วันก็ยอม


รับชมตัวอย่างได้ที่:





รับทำเว็บหนัง